การโฆษณาบนโซเชียลมีเดียถือเป็นวิธีที่ดีในการเข้าถึงลูกค้าในที่ที่พวกเขาใช้งานจริง และการยิงแอดผ่าน Facebook ก็เป็นหนึ่งในช่องทางยอดนิยมสำหรับโปรโมทธุรกิจออนไลน์
แต่การสร้างกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ การตั้งค่าประมูล และการออกแบบครีเอทีฟโฆษณา ล้วนต้องใช้ทั้งเวลาและความพยายาม ซึ่งนักโฆษณาที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่มักเริ่มต้นด้วยการ "รีเสิร์ช"
นอกจาก Facebook Business Manager แล้ว เครื่องมือที่ควรลองใช้คือ Meta Ad Library (หรือชื่อเดิมคือ Facebook Ad Library) เครื่องมือนี้ใช้ฟรีและช่วยให้คุณดูได้ว่าแบรนด์อื่น ๆ ยิงแอดยังไง และนำข้อมูลมาปรับใช้กับแคมเปญของคุณเองได้ทันที
📌 หมายเหตุ: ก่อนเริ่มใช้งาน แนะนำให้ติดตั้ง Meta Pixel ไว้ด้วย เพราะจะช่วยเก็บข้อมูลเชิงลึก และรองรับการทำ Facebook Retargeting ได้แม่นยำยิ่งขึ้น
Facebook Ad Library คืออะไร?
Meta Ad Library หรือ Meta Ad Library คือฐานข้อมูลโฆษณาดิจิทัลที่สามารถค้นหาได้ ซึ่งแสดงข้อมูลของโฆษณาที่กำลังรันอยู่ในแพลตฟอร์มของ Meta ทั้ง Facebook, Instagram, WhatsApp และอื่น ๆ โดยคุณสามารถใช้ Meta Ad Library เพื่อค้นหาโฆษณาในหมวดหมู่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมของคุณ ไม่ว่าจะเป็นโฆษณาของคู่แข่ง แบรนด์ที่ร่วมคอลลาบอเรชัน หรือเนื้อหาโฆษณาด้านสังคมและการเมือง ซึ่งจะปรากฏในระบบแม้ว่าโฆษณานั้นจะหมดแคมเปญไปแล้วก็ตาม
Facebook Ad Library จำเป็นยังไง? และควรใช้เมื่อไหร่?
เหตุผลที่ควรใช้ Meta Ad Library มีหลายข้อ เช่น
- หากคุณกำลังจะเริ่มทำแคมเปญโฆษณาแรก การดูตัวอย่างโฆษณาจริงจะช่วยให้ได้แรงบันดาลใจในการวางกลยุทธ์
- ใช้ตรวจสอบไอเดียใหม่ ๆ ว่าเคยมีใครทำมาก่อนหรือยัง และคุณจะทำให้ดีกว่าได้อย่างไร
- หาวิธีปรับปรุงหรือขยายแคมเปญที่คุณมีอยู่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- วิเคราะห์ว่าแบรนด์คู่แข่งวางกลยุทธ์โฆษณา Meta ของพวกเขาอย่างไร
- ดูว่าแบรนด์ต่าง ๆ กำลังพูดเรื่องอะไร ยิงโฆษณาแบบไหน และในช่องทางไหน
- หากคุณขายของบน Facebook หรือ Instagram การดูโฆษณาใน Facebook Ad Library จะช่วยให้คุณวางแผนเพื่อเพิ่มยอดเข้าชม ความสนใจ และยอดขายได้
ไม่ว่าคุณจะมีเป้าหมายอะไร การเข้าไปดูโฆษณาใน Facebook Ad Library คือวิธีที่ดีในการจุดไอเดียใหม่ ๆ และอัปเดตว่า "กลุ่มเป้าหมายของคุณกำลังเห็นอะไรอยู่ในฟีดบ้าง"
10 วิธีใช้ Meta Ad Library ให้เกิดประโยชน์กับธุรกิจ
มาดูวิธีใช้งาน Facebook Ad Library (Meta Ad Library) เพื่อวางแผนโฆษณาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ
- ดูว่าแบรนด์คู่แข่งกำลังยิงโฆษณาอะไรอยู่
- กรองโฆษณาตามประเทศที่ต้องการ
- กรองโฆษณาตามจำนวนครั้งที่ถูกแสดง (Impressions)
- ดูโฆษณาบนทุกแพลตฟอร์มของ Meta
- เช็กว่าโฆษณานั้นรันมานานแค่ไหน
- รายงานโฆษณาที่ละเมิดนโยบายของ Meta
- ดูโฆษณาอื่น ๆ จากผู้ลงโฆษณารายเดียวกัน
- เช็คว่าแบรนด์นั้นพูดถึงประเด็นสังคมหรือการเมืองหรือไม่
- ดูว่าแต่ละแบรนด์ใช้เงินกับโฆษณาไปเท่าไหร่
1. ค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ
ถ้าคุณอยากดูโฆษณาบน Facebook ที่ใกล้เคียงกับธุรกิจของคุณ ลองค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวกับวงการ แบรนด์ หรือสินค้าของคุณใน Meta Ad Library เพื่อดูว่ามีโฆษณาแบบไหนกำลังรันอยู่ สิ่งนี้จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของข้อความโฆษณาในตลาดตอนนี้ และอาจช่วยให้คุณสังเกตเห็นเทรนด์ที่น่าสนใจ ซึ่งสามารถนำมาปรับใช้เป็นการตลาดสำหรับธุรกิจของคุณเองได้
ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณขายอาหารวีแกน อาจลองค้นหาคำว่า “ซอสวีแกน” หรือชื่อสินค้าที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น “วีแกนซาซิกิ” หรือ “มอซซาเรลล่าวีแกน”
ถ้ายังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มค้นหาคำไหนดี? แม้ว่า Facebook Ad Library จะไม่ใช่เครื่องมือด้าน SEO โดยตรง แต่ทักษะการค้นหาคีย์เวิร์ดที่คุณมีสามารถช่วยให้คุณเลือกใช้คำค้นที่ตรงกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด
ลองทบทวนพื้นฐานการหาคีย์เวิร์ดจากคู่มือเหล่านี้
- วิธีวิเคราะห์คีย์เวิร์ดของคู่แข่ง
- คู่มือการหาคีย์เวิร์ดสำหรับสายอีคอมเมิร์ซ
2. ดูว่าแบรนด์คู่แข่งกำลังยิงโฆษณาอะไรอยู่
ถ้าคุณอยากจับตาคู่แข่ง หรืออยากเข้าใจภาพรวมของการแข่งขันในตลาด คุณสามารถค้นหาข้อมูลจากเพจและผู้ลงโฆษณาใน Facebook Ad Library ได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องใช้คีย์เวิร์ดเฉพาะก็ได้
หากคุณต้องการดูตัวอย่างโฆษณาเฟสบุ๊กที่แบรนด์คู่แข่งกำลังรันอยู่นั้นมีอะไรบ้าง ให้ลองค้นหาชื่อแบรนด์ใน Meta Ad Library โดยตรง หรือเข้าไปที่เพจ Facebook ของแบรนด์นั้น แล้วดูจากตรงนั้นก็ได้เช่นกัน
ตัวอย่างเช่น หากคุณอยากดูว่าแบรนด์สายดูแลตัวเองอย่าง Blendily กำลังโฆษณาอะไรอยู่ คุณสามารถเข้าไปที่เพจธุรกิจของพวกเขา แล้วเลือกแท็บ "เกี่ยวกับ" (About) จากแถบเมนูด้านบน จากนั้นคลิกที่ "ความโปร่งใสของเพจ" (Page transparency) แล้วเลือก "ดูทั้งหมด" (See all) เพื่อเปิดหน้าต่างป๊อปอัปที่แสดงข้อมูลการดำเนินการของเพจนั้น จากตรงนั้น คุณจะเห็นได้ว่าเพจนั้นกำลังรันโฆษณาอยู่หรือไม่ ในตัวอย่างนี้ เพจของ Blendily มีการรันโฆษณาอยู่ คุณจึงสามารถกดปุ่ม “ไปที่ Ad Library” เพื่อดูรายละเอียดโฆษณาที่กำลังรันได้เลย

เพจธุรกิจแต่ละเพจจะมีหน้า Ad Library ของตัวเอง ซึ่งจะแสดงโฆษณาทั้งหมดที่กำลังรันอยู่ในขณะนั้น บางแบรนด์อาจมีแค่โฆษณาเดียว หรืออาจมีหลายแคมเปญให้ดู ถ้ามีโฆษณาหลายรายการ Meta Ad Library จะจัดกลุ่มโฆษณาเหล่านั้นตามเดือนที่เริ่มรันแอด เพื่อให้ดูง่ายและเป็นระเบียบ
3. กรองโฆษณาตามประเทศที่ต้องการ
หากคุณขายสินค้าระหว่างประเทศ ก็มีโอกาสสูงที่คุณจะต้องทำแคมเปญโฆษณาแยกตามแต่ละประเทศหรือกลุ่มลูกค้าในพื้นที่ต่างกัน และแม้ว่าคุณจะไม่ได้ขายแบบอินเตอร์ การยิงโฆษณาให้ตรงกลุ่มเป้าหมายก็อาจต้องเน้นเฉพาะในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง
ไม่ว่าจะกรณีไหน การกรองการค้นหาโฆษณาใน Meta Ad Library ตามประเทศจะช่วยให้คุณเห็นครีเอทีฟโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณและพื้นที่ที่คุณต้องการเจาะตลาดมากขึ้น
หากต้องการดูโฆษณาในประเทศใดประเทศหนึ่ง เพียงไปที่เมนูแบบดรอปดาวน์ จากนั้นคุณสามารถเลื่อนหารายชื่อประเทศ หรือพิมพ์ชื่อประเทศในช่องค้นหาได้เลย และคุณยังสามารถกรองโฆษณาตามประเทศได้จากหน้า Ad Library ของผู้ลงโฆษณาแต่ละรายโดยตรงเช่นกัน

4. กรองโฆษณาตามจำนวนครั้งที่ถูกแสดง (Impressions)
ในระบบของ Meta การนับ Impression คือทุกครั้งที่มีผู้ใช้งานเห็นโฆษณาในฟีดหรือพื้นที่อื่น ๆ ของแพลตฟอร์ม ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญ เพราะช่วยให้คุณเห็นว่าผู้ลงโฆษณารายอื่น ๆ กำลังยิงแอดเข้าถึงคนจำนวนมากแค่ไหน
หากโฆษณาหนึ่งมีจำนวนการแสดงผลสูง อาจหมายถึงแบรนด์นั้นมีกลุ่มเป้าหมายขนาดใหญ่ ใช้งบโฆษณามาก หรือทั้งสองอย่างรวมกัน
หากต้องการกรองโฆษณาตามจำนวนการแสดงผล ให้เริ่มต้นจากการค้นหาใน Meta Ad Library เมื่อคลิกที่ปุ่ม Filters แล้ว ให้เลื่อนลงไปด้านล่างของหน้าต่างป๊อปอัปจนเจอหัวข้อ “Impressions by date” จากตรงนั้น คุณจะสามารถเลือกดูโฆษณาที่มียอดการแสดงผลมากที่สุดในช่วงเวลาที่คุณกำหนดได้ ไม่ว่าจะเป็นวันที่เฉพาะเจาะจง ช่วงวัน “ก่อนหรือภายในวันที่...” หรือ “ตั้งแต่วันที่...” ก็ได้
ตัวอย่าง: หากแบรนด์น้ำมันมะกอกอย่าง Graza ต้องการดูว่าโฆษณาใดมียอดการแสดงผลมากที่สุดในช่วงเทศกาลปลายปี พวกเขาอาจเลือกช่วงวันที่ตั้งแต่กันยายนถึงธันวาคม

5. ดูโฆษณาบนทุกแพลตฟอร์มของ Meta
โฆษณาบน Facebook มีหลายรูปแบบ และความจริงแล้ว การยิงแอดบน Facebook ไม่ได้จำกัดอยู่แค่บนฟีดหรือไทม์ไลน์เท่านั้น โฆษณาบางประเภทอาจแสดงใน Stories หรือแม้แต่ใน Messenger
เนื่องจากบริษัทแม่ของ Facebook อย่าง Meta ยังเป็นเจ้าของ Instagram และ WhatsApp ด้วย คุณจึงสามารถเลือกให้โฆษณาปรากฏบนหลายแพลตฟอร์มในเครือ Meta ได้
เมื่อคุณเรียกดูโฆษณาใน Meta Ad Library คุณจะเห็นข้อมูลว่าโฆษณาแต่ละตัวรันอยู่ในรูปแบบใด และอยู่บนแพลตฟอร์มใด ให้ดูที่รายละเอียดด้านบนของภาพโฆษณา ซึ่งจะระบุสถานะของโฆษณา วันที่เริ่มรัน และรายชื่อแพลตฟอร์มที่โฆษณานั้นถูกแสดงอยู่ Ad Library จะแสดงไอคอนเพื่อบอกตำแหน่งการแสดงผลของแต่ละโฆษณา
ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าควรใช้โฆษณาแบบไหนในแคมเปญของตัวเอง เช่น หากคุณสังเกตว่าไม่มีคู่แข่งรายใดใช้โฆษณาใน Messenger เลย นั่นอาจเป็นโอกาสที่ดีให้คุณลองใช้ช่องทางนั้นเพื่อสร้างความแตกต่าง

6. เช็กว่าโฆษณานั้นรันมานานแค่ไหน
การดูวันที่เริ่มรันโฆษณานั้นมีประโยชน์ เพราะจะช่วยให้คุณเข้าใจได้ว่าโฆษณานั้นแสดงให้ผู้ใช้งานเห็นมานานเท่าไหร่ และผู้ลงโฆษณาทุ่มงบโฆษณาให้กับแคมเปญนี้มานานแค่ไหน
ถ้าโฆษณารันมาได้สักพักแล้ว ก็อาจตีความได้ว่าโฆษณานั้นได้ผลดี หรือผู้ลงโฆษณาอาจยังไม่ให้ความสำคัญกับการอัปเดตหรือปรับแต่งโฆษณา
7. รายงานโฆษณาที่ละเมิดนโยบายของ Meta
หากคุณเห็นโฆษณาที่ละเมิดเงื่อนไขการให้บริการของ Meta คุณสามารถใช้ Ad Library เพื่อรายงานโฆษณานั้นได้ โดยให้คลิกที่ “ดูรายละเอียดโฆษณา (See ad details)” เพื่อขยายดูโฆษณา จากนั้นคลิกที่ไอคอนสามจุด แล้วเลือก “รายงานโฆษณา (Report ad)”
เมื่อคุณกดรายงาน Meta จะขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโฆษณานั้น และเหตุผลที่คุณคิดว่าควรถูกแจ้งรายงาน
Meta จะให้คุณเลือกประเภทของการละเมิดจากรายการต่อไปนี้
- โฆษณาชวนเชื่อหรือหลอกลวง
- มีเนื้อหาไม่เหมาะสมทางเพศ
- มีเนื้อหารุนแรงหรือน่ารังเกียจ
- โฆษณาสิ่งที่ถูกห้าม
- สแปม
- ข่าวปลอม
- ผู้สมัครทางการเมืองหรือประเด็นการเมือง
- เกี่ยวกับเครดิต/สินเชื่อ
- อื่น ๆ
ข้อควรจำ: การรายงานโฆษณาเป็นสิ่งที่ควรทำ หากคุณเห็นว่าโฆษณานั้นกล่าวอ้างเท็จเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ หรือมีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของคุณ เช่น การใช้รูป โลโก้ หรือเนื้อหาของคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต
8. ดูโฆษณาอื่น ๆ จากผู้ลงโฆษณารายเดียวกัน
หากคุณกำลังเลื่อนฟีด Facebook แล้วเจอโฆษณาที่น่าสนใจ คุณสามารถใช้ Ad Library เพื่อดูว่าแบรนด์เดียวกันนี้มีโฆษณาอื่น ๆ อะไรบ้างที่กำลังรันอยู่
หากต้องการดูโฆษณาหลายรายการจากแบรนด์เดียวกัน ให้เข้าไปที่หน้า Facebook ของแบรนด์นั้น แล้วเลือกแท็บ “เกี่ยวกับ” (About) เพื่อดูรายละเอียดในส่วน “ความโปร่งใสของเพจ” (Page transparency)
จากหน้านั้น ให้เลื่อนลงมาแล้วคลิก “ดูทั้งหมด” (See all) เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม
จากนั้นคลิก “ไปที่ Ad Library” (Go to Ad Library) เพื่อดูโฆษณาทั้งหมดที่แบรนด์นั้นกำลังรันอยู่บนแพลตฟอร์มของ Meta

เมื่อคุณดูโฆษณาของเพจใดเพจหนึ่งในภาพรวมแบบมุมกว้าง คุณจะสามารถสังเกตเห็นแนวโน้มบางอย่างได้ เช่น ผู้ลงโฆษณาอาจใช้ภาพหรือข้อความที่คล้ายกันในหลายแคมเปญ ซึ่งอาจบอกได้ว่าคอนเทนต์แบบนั้นได้ผลดีสำหรับพวกเขาซึ่งคุณอาจสังเกตได้ด้วยว่าแบรนด์นั้นใช้โฆษณาประเภทเดิม ๆ ซ้ำกันบ่อย (เช่น วิดีโอ อินโฟกราฟิก ฯลฯ) หรือพยายามทดลองใช้หลายรูปแบบผสมกัน ตัวอย่างเช่น แบรนด์เสื้อผ้าแนวรักษ์โลกอย่าง Girlfriend Collective ใช้โฆษณาแบบวิดีโอบน Facebook ร่วมกับภาพนิ่งในแคมเปญโฆษณาบนแพลตฟอร์ม Meta
9. เช็คว่าแบรนด์นั้นพูดถึงประเด็นสังคมหรือการเมืองหรือไม่
เพื่อความโปร่งใสที่มากขึ้น Meta ได้เพิ่มฟีเจอร์เฉพาะในการระบุโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับประเด็นสังคมหรือการเมือง เนื่องจากข้อมูลผิด ๆ แพร่กระจายได้ง่ายในโลกออนไลน์ Facebook จึงทำการติดป้ายเตือนโฆษณาประเภทนี้ไว้ เพื่อให้ผู้ชมสามารถตรวจสอบข้อเท็จจริง ศึกษาว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง และพิจารณาเจตนาของแบรนด์ได้ด้วยตนเอง
แม้ว่าคุณจะไม่สามารถกรองผลการค้นหาใน Ad Library ตามอุตสาหกรรมได้ แต่คุณสามารถกรองเฉพาะโฆษณาที่เกี่ยวกับประเด็นสังคมหรือการเมืองได้ ซึ่งฟีเจอร์นี้อาจมีความสำคัญ หากแบรนด์ของคุณมีจุดยืนหรือคุณค่าในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง และต้องการแสดงออกต่อประเด็นที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
นอกจากนี้ อย่าลืมสังเกตว่าคู่แข่งของคุณมีส่วนร่วมในบทสนทนาเหล่านี้ด้วยหรือไม่
10. ดูว่าแต่ละแบรนด์ใช้เงินกับโฆษณาไปเท่าไหร่
ถ้าคุณกำลังรีเสิร์ชเพื่อดูว่าค่าใช้จ่ายในการยิงแอดบน Meta หรือ Facebook อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ เพื่อใช้วางแผนงบโฆษณาของตัวเอง คุณสามารถใช้ Ad Library เพื่อดูว่าแบรนด์อื่น ๆ ใช้งบไปเท่าไหร่ในแต่ละแคมเปญ
แม้ว่าโฆษณาทุกชิ้นจะไม่ได้เปิดเผยงบประมาณ แต่บางหน้าใน Ad Library ก็จะแสดงข้อมูลการใช้จ่ายแบบละเอียดพอสมควร
บนหน้า Summary data ของผู้ลงโฆษณา คุณสามารถดูได้ว่าแบรนด์นั้นใช้งบประมาณไปเท่าไหร่ในการโปรโมตโฆษณา ดูได้ว่าพวกเขาเจาะกลุ่มเป้าหมายแบบใด และโฆษณานั้นมียอดแสดงผลกี่ครั้ง ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณวางกลยุทธ์ทั้งด้านการกำหนดงบประมาณและการตั้งค่ากลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำขึ้น
หรือถ้าคุณอยากดูข้อมูลภาพรวมเพิ่มเติม ก็สามารถเข้าไปดูในหน้า Meta’s Ad Library Report ซึ่งจะแสดงสถิติรวมของ Ad Library คำค้นหายอดนิยม และตัวติดตามการใช้จ่ายของโฆษณาทั้งระบบ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Facebook Ad Library
จะเข้าใช้งาน Facebook Ad Library ได้อย่างไร?
สามารถเข้า Meta Ad Library ได้ 2 วิธี ได้แก่ พิมพ์ URL facebook.com/ads/library ลงในเบราว์เซอร์โดยตรง หรือเลื่อนลงไปที่ส่วน “ความโปร่งใสของเพจ” ในเพจ Facebook ที่ต้องการดู
Meta Ad Library แสดงโฆษณาทั้งหมดหรือไม่?
ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะ Ad Library จะแสดงเฉพาะโฆษณาที่กำลังรันอยู่บนแพลตฟอร์มของ Meta เท่านั้น ไม่รวมโฆษณา Google โฆษณา Meta ที่หมดอายุ หรือโฆษณาจากเครือข่ายอื่น ๆ ส่วนข้อยกเว้นคือโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับประเด็นทางสังคมหรือการเมือง ซึ่งจะถูกเก็บไว้ใน Meta Ad Library ได้นานถึง 7 ปี ไม่ว่าจะยังเปิดใช้งานอยู่หรือไม่
ข้อมูลใน Facebook Ad Library เชื่อถือได้แค่ไหน?
ปัจจุบัน Meta Ad Library ถือเป็นหนึ่งในวิธีที่ครอบคลุมและน่าเชื่อถือที่สุดในการดูโฆษณาที่แบรนด์ต่าง ๆ เผยแพร่บนแพลตฟอร์มโซเชียลยอดนิยม