ลองจินตนาการดูสิ คนคนหนึ่งกำลังขับรถไปเที่ยวโดยมีเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้เขาไม่เหงา นั่นก็คือเสียงของคุณที่เล่าเรื่องนิยายฆาตกรรม ผู้ฟังถึงกับอ้าปากค้างเมื่อคุณเปิดเผยจุดหักมุมของเรื่อง แล้วโน้มตัวเข้าใกล้ลำโพงเมื่อคุณเริ่มสร้างความตึงเครียด พอคุณอ่านประโยคสุดท้ายจบ เขาก็เริ่มค้นหาหนังสือเสียงเล่มถัดไปทันที ไม่ใช่แค่เพราะอยากฟังผลงานของนักเขียนคนเดิม แต่เพราะอยากฟังเสียงคุณอีก
เชื่อหรือไม่ว่านี่แหละคือวิธีหาเงินจาก Audible เพราะทุกครั้งที่สมาชิก Audible ฟังหนังสือเสียงของคุณ คุณจะได้รับค่าลิขสิทธิ์
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักวิธีหาเงินจากหนังสือเสียงบน Audible ตั้งแต่รูปแบบรายได้ที่คุณสามารถเข้าถึงบนแพลตฟอร์มนี้ ไปจนถึงขั้นตอนการเริ่มต้นเลย
Audible คืออะไร
Audible คือแพลตฟอร์มหนังสือเสียงจาก Amazon ที่ให้ผู้ใช้สามารถซื้อและดาวน์โหลดหนังสือเสียงทีละเล่ม หรือสมัครใช้งานแบบสมาชิกก็ได้ ถึงแม้ว่าเนื้อหาหลักจะเป็นหนังสือเสียง แต่ Audible ก็มีคอนเทนต์เสียงประเภทอื่นด้วย เช่น พ็อดแคสต์ และ Audible Originals ซึ่งเป็นผลงานต้นฉบับ เช่น หนังสือ คอร์ส ข่าว และบทละคร ที่หาได้เฉพาะใน Audible เท่านั้น
Audible ใช้งานได้ผ่านคอมพิวเตอร์ มือถือ แท็บเล็ต สมาร์ตวอทช์ หรืออุปกรณ์ Alexa โดยสามารถฟังแบบออฟไลน์ และซิงก์หนังสือเสียงข้ามอุปกรณ์ได้อย่างราบรื่น
นอกจากเข้าถึงคลังหนังสือเสียงขนาดใหญ่แล้ว Audible ยังเปิดโอกาสให้คุณสร้างรายได้จากการขายหนังสือเสียงออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มนี้ หรือเข้าร่วมเป็นพาร์ตเนอร์ในโปรแกรมแอฟฟิลิเอตของ Audible ก็ได้เช่นกัน
ACX คืออะไร
ACX หรือ Audiobook Creation Exchange คือ ตลาดออนไลน์ของ Audible เปิดพื้นที่ให้ผู้เขียนและสำนักพิมพ์ได้เชื่อมต่อกับนักพากย์ วิศวกรเสียง และสตูดิโอ เพื่อร่วมกันสร้างหนังสือเสียงที่สามารถทำกำไรได้ เรียกได้ว่า ACX นั้นเป็นเหมือนเวทีที่คนทำหนังสือได้มาพบกับคนทำเสียงนั่นเอง
ACX ช่วยให้ผู้เขียนสามารถหานักพากย์มืออาชีพ หรือคนที่มีพรสวรรค์ด้านการใช้เสียงมาสร้างหนังสือเสียงได้ ถ้าคุณอยากหาเงินจากการเป็นนักพากย์หนังสือเสียงละก็ คุณก็สามารถสมัครเพื่ออ่านผลงานเขียนต่างๆ โดยเลือกรับค่าจ้างเป็นรายงาน หรือเลือกแบบแบ่งรายได้จากยอดขายก็ได้เช่นกัน
4 วิธีหาเงินจาก Audible
- ขายหนังสือเสียง
- บรรยายหนังสือเสียง
- วิธีหาเงินจาก Audible เข้าร่วมโปรแกรมแอฟฟิลิเอต
- เสนอบริการผลิตหนังสือเสียง
คุณสามารถหาเงินจาก Audible ได้หลายวิธี โดยแต่ละแบบจะใช้ทักษะที่แตกต่างกันออกไป คุณอาจจะถนัดบางแนวมากกว่าอีกแนวหนึ่งก็ได้
1. ขายหนังสือเสียง
วิธีหาเงินจาก Audible ทางเลือกที่ 1 โดย Audible ทำให้การสร้างและขายหนังสือเสียงออนไลน์เป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่าย โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นนักเขียนที่จัดพิมพ์ผลงานเอง คุณสามารถจ้างนักพากย์ (ซึ่งในแพลตฟอร์มนี้จะเรียกว่า “โปรดิวเซอร์”) มาอัดเสียงหนังสือของคุณ แล้วทำงานร่วมกันจนได้ผลงานที่สมบูรณ์แบบ พอได้เวอร์ชั่นสุดท้ายแล้ว คุณก็สามารถเผยแพร่หนังสือเสียงผ่าน Audible Amazon และ Apple ได้เลย
การใช้ ACX ช่วยให้คุณสร้างรายได้แบบพาสซีฟจาก Audible ได้ แต่รายได้จะมากน้อยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย หากคุณเลือกเผยแพร่ผลงานแบบเอ็กซ์คลูซีฟกับ Audible Amazon และ Apple เท่านั้น และจ่ายค่าจ้างให้โปรดิวเซอร์เป็นเงินก้อนโดยไม่แบ่งค่าลิขสิทธิ์ คุณจะได้ส่วนแบ่ง 40 เปอร์เซ็นต์จากยอดขายหนังสือเสียง
แต่ถ้าคุณเลือกแบ่งค่าลิขสิทธิ์กับโปรดิวเซอร์ รายได้ของคุณจะอยู่ที่ 20 เปอร์เซ็นต์ และถ้าคุณต้องการเก็บสิทธิ์ไว้เพื่อขายผ่านแพลตฟอร์มอื่นเพิ่มเติมด้วย คุณจะได้ส่วนแบ่งสูงสุดที่ 25 เปอร์เซ็นต์จากยอดขาย
Audible ตั้งราคาหนังสือเสียงตามความยาวของหนังสือ โดยมีช่วงราคาคร่าวๆ ดังนี้
- น้อยกว่า 1 ชั่วโมง: ต่ำกว่า 245 บาท
- 1 ถึง 3 ชั่วโมง: 245 ถึง 350 บาท
- 3 ถึง 5 ชั่วโมง: 350 ถึง 700 บาท
- 5 ถึง 10 ชั่วโมง: 525 ถึง 875 บาท
- 10 ถึง 20 ชั่วโมง: 700 ถึง 1,050 บาท
- มากกว่า 20 ชั่วโมง: 875 ถึง 1,225 บาท
2. บรรยายหนังสือเสียง
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักพากย์มืออาชีพที่กำลังมองหารายได้เสริม หรือมือใหม่เสียงดี คุณก็สามารถเป็นนักพากย์หนังสือเสียงได้ ลองสมัครออดิชั่นในโปรเจกต์ต่างๆ ผ่าน ACX แล้วหาเงินจาก Audible ด้วยการอ่านหนังสือให้ผู้เขียนหรือสำนักพิมพ์
รูปแบบการรับค่าจ้างขึ้นอยู่กับการตกลงกับผู้เขียนหรือสำนักพิมพ์ โดยวิธีหาเงินจาก Audible ด้วยการบรรยายหนังสือเสียง มีตัวเลือกหลักๆ ดังนี้
- จ่ายล่วงหน้า: ได้ค่าจ้างเป็นอัตราต่อชั่วโมงเสียงที่เสร็จสมบูรณ์ แต่ต้องจำไว้ว่าหนึ่งชั่วโมงเสียงที่ใช้งานได้จริง อาจต้องใช้เวลาทำงานมากกว่าหนึ่งชั่วโมง เพราะมีทั้งการแก้ไขและการอัดซ้ำ
- แบ่งค่าลิขสิทธิ์: แบ่งรายได้จากยอดขายหนังสือเสียงแบบครึ่งต่อครึ่งกับผู้เขียนหรือสำนักพิมพ์ วิธีนี้อาจทำรายได้ได้มากขึ้น ถ้าคุณพากย์หนังสือที่ขายดี
- แบ่งค่าลิขสิทธิ์บวกค่าจ้างล่วงหน้า: เป็นการรวมกันระหว่างการรับค่าจ้างตอนเริ่มต้นและส่วนแบ่งรายได้ โดยขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างคุณกับผู้เขียน สำนักพิมพ์ หรือผู้ถือสิทธิ์ในผลงานนั้น
3. วิธีหาเงินจาก Audible เข้าร่วมโปรแกรมแอฟฟิลิเอต
ถ้าคุณไม่ใช่นักเขียนหรือนักพากย์เสียงทอง ก็ยังสามารถหาเงินจาก Audible ได้ด้วยการเป็นพาร์ตเนอร์ในโปรแกรมแอฟฟิลิเอตของ Audible กลยุทธ์นี้เป็นการตลาดแบบผลตอบแทนตามผลงาน ซึ่งคุณจะได้ค่าคอมมิชชั่นจากการโปรโมตหนังสือเสียงให้คนอื่นมาซื้อ
แค่สมัครเข้าร่วมโปรแกรมแอฟฟิลิเอต Audible คุณก็จะได้ลิงก์แอฟฟิลิเอตของคุณ เพื่อนำไปแชร์ในเว็บไซต์ บล็อก หรือโซเชียลมีเดียของคุณ หากมีคนคลิกผ่านลิงก์ของคุณแล้วสมัครหรือซื้ออะไรจาก Audible คุณก็จะได้รับค่าคอมมิชชั่น
ถ้ามีคนคลิกลิงก์ของคุณแล้วสมัครทดลองใช้งานฟรี คุณจะได้ 175 บาทโดยประมาณ และถ้าเขาสมัครสมาชิก Audible Gold Digital แบบเสียเงิน คุณจะได้ประมาณ 350 บาท นอกจากนี้ หากมีคนซื้อหนังสือเสียงผ่านลิงก์ของคุณทีละเล่ม คุณจะได้ค่าคอมมิชชั่นประมาณ 17.50 บาทต่อเล่ม
ถ้าคุณเป็นคนทำพ็อดแคสต์ คุณก็สามารถสมัครเข้าร่วมโปรแกรม Audible Creator ได้เช่นกัน โดยคุณจะให้สิทธิ์ทดลองใช้งาน Audible ฟรี 30 วันแก่ผู้ฟัง และจะได้รับประมาณ 525 บาทต่อ 1 คนที่สมัครผ่านคุณ ผู้ฟังแต่ละคนจะได้รับหนังสือเสียงฟรีหนึ่งเล่มด้วย
4. เสนอบริการผลิตหนังสือเสียง
การเป็นโปรดิวเซอร์หนังสือเสียงก็เป็นอีกหนึ่งวิธีหาเงินจาก Audible โปรดิวเซอร์จะดูแลกระบวนการสร้างหนังสือเสียงทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ
หน้าที่หลักของโปรดิวเซอร์มีดังนี้
- คัดเลือก จับคู่นักพากย์ และจัดหานักพากย์ให้เหมาะกับแต่ละเล่ม
- กำกับกระบวนการทั้งหมด เช่น ตรวจสอบการออกเสียงให้ถูกต้อง จดบันทึกจุดที่พากย์ผิดหรืออ่านผิด ให้ฟีดแบ็กนักพากย์ และดูแลขั้นตอนอื่นๆ
- ดูแลการตัดต่อและมิกซ์เสียงในขั้นตอนหลังการผลิต
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่างานพากย์ตรงกับวิสัยทัศน์ของผู้เขียน และสื่ออารมณ์ได้สอดคล้องกับเนื้อหาในหนังสือ
ถ้าคุณอยากให้บริการสร้างหนังสือเสียงด้วยตัวเอง คุณสามารถเริ่มต้นด้วยการสร้างสตูดิโอที่บ้าน โดยอาจต้องลงทุนในอุปกรณ์บันทึกเสียงและซอฟต์แวร์สำหรับงานพากย์ เช่น Audacity หรือ Pro Tools จากนั้นอาจจ้างงานเฉพาะทางเพิ่มเติม เช่น นักพากย์ ผู้มิกซ์เสียง หรือบริการตรวจสอบคุณภาพเสียง (QA)
อีกทางเลือกหนึ่งคือทำงานแบบครบวงจร โดยคุณอยู่เบื้องหลังและให้ลูกค้าเข้าถึงทีมมืออาชีพ เช่น นักพากย์ ผู้กำกับเสียง วิศวกรเสียง ไปจนถึงนักการตลาดดิจิทัลเมื่อหนังสือเสียงผลิตเสร็จสมบูรณ์แล้ว
การเริ่มต้นเป็นโปรดิวเซอร์หนังสือเสียง แนะนำให้เริ่มจากโปรเจกต์เล็กๆ ก่อน เช่น ทำงานกับนักเขียนที่ต้องการจัดพิมพ์หนังสือเสียงเอง เพื่อสะสมประสบการณ์ พอคุณมีผลงานครบอย่างน้อย 25 เล่มแล้ว ก็สามารถสมัครเป็น ACX Approved Producer ได้
ถ้าอยากเป็นนักพากย์หนังสือเสียงบน Audible ต้องทำอย่างไร
หากคุณอยากพากย์หนังสือเสียงให้ได้คุณภาพและมีโอกาสสร้างรายได้จาก Audible คุณจะต้องเตรียมสิ่งเหล่านี้
- อุปกรณ์ระดับมืออาชีพ: ไมโครโฟนที่เหมาะกับงานพากย์หนังสือเสียง ได้แก่ Rode NT1-A Audio-Technica AT2020 Shure SM7B และ Blue Yeti ซึ่งแต่ละรุ่นให้คุณภาพเสียงและราคาที่ต่างกันไป
- พื้นที่เก็บเสียงได้ดี: ห้องที่เงียบและเก็บเสียงได้สำคัญมาก ตู้เสื้อผ้าก็เป็นตัวเลือกที่ใช้ได้ เพราะเสื้อผ้าช่วยดูดซับคลื่นเสียง ลดเสียงสะท้อนและเสียงก้องได้ดี
- น้ำเสียงที่น่าฟัง: ถ้าคุณอยากสร้างประสบการณ์ที่ดึงดูดผู้ฟัง ควรฝึกใช้น้ำเสียงให้หลากหลาย ปรับจังหวะการพูดและอารมณ์ให้เข้ากับบรรยากาศของเรื่องและบุคลิกของตัวละครแต่ละตัว
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวิธีหาเงินจาก Audible
Audible จ่ายค่าจ้างให้นักพากย์หนังสือเสียงเท่าไหร่
ในฐานะนักพากย์ของ Audible คุณสามารถหาเงินผ่าน ACX (Audiobook Creation Exchange) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงนักเขียนและสำนักพิมพ์เข้ากับนักพากย์ (หรือที่เรียกว่าโปรดิวเซอร์) โดยสามารถเลือกรับรายได้แบบค่าจ้างล่วงหน้า ส่วนแบ่งค่าลิขสิทธิ์ หรือทั้งสองแบบรวมกัน นักพากย์มักจะได้รับค่าจ้างตาม “ชั่วโมงที่เสร็จสมบูรณ์” (PFH) รายได้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ โดยทั่วไป มือใหม่จะได้ประมาณ 1,750 ถึง 3,500 บาทต่อชั่วโมงที่เสร็จสมบูรณ์นักพากย์ที่มีประสบการณ์มากอาจทำรายได้ถึง 7,000 ถึง 14,000 บาทต่อชั่วโมงที่เสร็จสมบูรณ์
จะโปรโมตหนังสือเสียงได้ยังไง?
เริ่มต้นด้วยการไปออกรายการพ็อดแคสต์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายหรือแนวหนังสือของคุณ แบ่งปันตัวอย่างหรือบทฟรีผ่านแคมเปญอีเมล โซเชียลมีเดีย หรือจับมือกับอินฟลูเอนเซอร์ในสายเดียวกัน จัดกิจกรรมออนไลน์ เช่น Q&A หรืออ่านหนังสือให้ฟังสด เพื่อสร้างความใกล้ชิดกับกลุ่มผู้ฟัง ลงโฆษณาแบบเสียเงินในแพลตฟอร์มอย่าง Facebook หรือ Instagram เพื่อเพิ่มการมองเห็น และสุดท้าย ลองจัดชุดโปรโมตรวมเล่ม เช่น ซื้อหนังสือฉบับพิมพ์หรืออีบุ๊ก แล้วแถมหนังสือเสียงในราคาพิเศษให้ลูกค้าตัดสินใจง่ายขึ้น