เมื่อใครสักคนต้องการรู้จักคุณหรือธุรกิจของคุณมากขึ้น หน้าเกี่ยวกับเรา มักจะเป็นที่แรกที่พวกเขาจะค้นหา แม้ว่าบางครั้งก็อาจใช้ชื่อต่างออกไปกัน เช่น เกี่ยวกับ เรื่องราว พันธกิจ แต่หน้าทุกหน้าเหล่านี้มีจุดประสงค์เดียวกัน นั่นคือการให้แบรนด์บอกว่า “เราคือใคร”
หน้าเกี่ยวกับเรา คืออะไร
หน้าเกี่ยวกับเรา คือส่วนหนึ่งของเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท องค์กร หรือบุคคล นี่คือโอกาสในการบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ แชร์วิสัยทัศน์หรือพันธกิจ แนะนำสมาชิกในทีม และสรุปประวัติและความสำเร็จของคุณ ที่นี่คือที่ที่คุณจะสร้างความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือกับลูกค้า
ในการศึกษาความไว้วางใจของลูกค้าของ Shopify เราพบว่า ลูกค้ามักเข้าไปที่หน้าเกี่ยวกับเราเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแบรนด์และผู้ที่อยู่เบื้องหลังสินค้าของคุณ งานวิจัยหนึ่งพบว่า 59% ของผู้บริโภคที่ถูกสำรวจบอกว่าพวกเขาจะมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่พวกเขาไว้วางใจ และตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นเป็น 79% ในกลุ่มผู้บริโภค Gen Z ที่อายุน้อยกว่า หน้าเกี่ยวกับเราของคุณควรตอบคำถามสองข้อที่ผู้ซื้อสงสัยเพื่อช่วยในการตัดสินใจ
ผู้ซื้อยังสนใจในพันธกิจและค่านิยมของแบรนด์ พวกเขาจะใช้หน้าเกี่ยวกับเราเพื่อพิจารณาว่าพวกเขามีค่านิยมร่วมกับธุรกิจหรือไม่ และตัดสินใจว่าจะซื้อสินค้าจากคุณหรือไม่ ค่านิยมที่ตรงกัน โดยเฉพาะในเรื่องการทำธุรกิจอย่างยั่งยืนและมีจริยธรรม ยังคงมีอิทธิพลในการตัดสินใจของผู้บริโภค
องค์ประกอบของหน้าเกี่ยวกับเรา
หน้าเกี่ยวกับเราควรเน้นที่อัตลักษณ์ของแบรนด์เป็นหลัก มากกว่าการปิดการขาย ซึ่งทำให้หน้าเกี่ยวกับเรานั้นแตกต่างจากหน้าแลนดิ้งที่มักเน้นการขาย
ต่อไปนี้คือองค์ประกอบที่ควรมีในหน้าเกี่ยวกับเรา
เรื่องราวของแบรนด์
เล่าจุดเริ่มต้นของธุรกิจให้ลูกค้าฟัง ว่าทำไมคุณถึงเริ่มต้นมันขึ้นมา ยิ่งเล่าให้มีความเป็นส่วนตัวและน่าจดจำมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสร้างความรู้สึกเชื่อมโยงกับลูกค้าได้ดีขึ้น ถ้าแบรนด์ของคุณมีชื่อเดียวกับคุณ หรือเริ่มจากการเป็นแบรนด์ส่วนตัว เรื่องราวของแบรนด์ก็สามารถเป็นเรื่องราวของผู้ก่อตั้งไปในตัวได้เลย
คุณให้บริการใคร
คุณขายอะไร แล้วใครคือกลุ่มเป้าหมาย? อธิบายให้ลูกค้าเห็นว่าผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณช่วยแก้ปัญหาอะไร หรือเติมเต็มความต้องการด้านใดในชีวิตพวกเขา นี่แหละคือจุดขายเฉพาะตัวของคุณ
คุณดำเนินการอย่างไร
ถ้าคุณให้บริการอะไรบางอย่าง ลองอธิบายให้เข้าใจง่ายถึงรูปแบบธุรกิจ หรือวิธีการผลิตสินค้า ถ้าคุณมีวิธีทำงานที่ไม่เหมือนใคร อย่าเก็บไว้ นี่คือสิ่งที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ และทำให้คุณแตกต่างจากคู่แข่ง
คนที่อยู่เบื้องหลังแบรนด์
โชว์ภาพถ่ายผู้ก่อตั้งหรือทีมงานหลักให้ลูกค้าได้รู้จัก ลูกค้าชอบเห็นว่าเขากำลังซื้อของจากใคร หรือกำลังทำงานร่วมกับใคร คุณอาจใส่ภาพเบื้องหลังในสตูดิโอ ที่ทำงาน หรือหน้าร้านของคุณเข้าไปด้วยก็ได้
คอนเทนต์ที่โน้มน้าวใจ
คิดดูว่าคุณอยากให้ผู้อ่านทำอะไรต่อไป แล้วใส่เนื้อหาหรือคำกระตุ้นให้ลงมือทำ (CTA) เพื่อพาเขาไปยังจุดหมายนั้น เช่น ปุ่มกด รีวิวจากลูกค้า วิดีโออธิบาย อินโฟกราฟิก ลิงก์ไปยังบล็อกโพสต์ สินค้า โซเชียลมีเดีย หรือจดหมายข่าวของคุณ
หน้าเกี่ยวกับเราก็เหมือนกับชื่อของมัน ซึ่งก็คือเรื่องของคุณนั่นเอง แต่ก็ไม่ได้แปลว่าคุณจะหยิบยืมไอเดียจากคนอื่นไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องโครงสร้างและดีไซน์
มาดูตัวอย่างหน้าเกี่ยวกับเราในรูปแบบต่างๆ ที่คุณสามารถใช้เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบหน้าเพจของตัวเองกันได้เลย
18 ตัวอย่างหน้าเกี่ยวกับเรา
- Magic Spoon
- WP Standard
- Bossy Cosmetics
- Allbirds
- Buck Mason
- Chubbies
- Milk Bar
- Wild One
- BOOM! by Cindy Joseph
- Lunya
- Wild Fork
- 4ocean
- YETI
- 40 Colori
- MVMT
- Marie Forleo
- Cotopaxi
- Mailchimp
1. Magic Spoon

ถ้ายังนึกไม่ออกว่าจะเริ่มยังไง ลองเริ่มด้วยคำถามก็ได้ แบบที่ Magic Spoon แบรนด์ซีเรียลเพื่อสุขภาพสำหรับผู้ใหญ่ใช้เปิดหน้าเกี่ยวกับเราของแบรนด์
ถ้าอยากทำให้ดึงดูดยิ่งขึ้น ลองเริ่มด้วยคำถามที่กระตุ้นความรู้สึกของคนอ่าน โดย Magic Spoon ก็ได้ตั้งคำถามแรกได้อย่างน่าสนใจและชวนให้ย้อนนึกถึงอดีต
“จำวันเวลาแสนไร้กังวลในวัยเด็กได้ไหม ตอนที่เรากินซีเรียลแบบไม่ต้องรู้สึกผิด ทั้งที่สารอาหารอาจจะไม่ได้ดีเท่าไหร่”
อย่าไปกลัวการใช้สีสันสดใสและโทนสนุกๆ ในหน้าเกี่ยวกับเรา (ถ้ามันเป็นส่วนหนึ่งของอัตลักษณ์แบรนด์อยู่แล้ว) เพราะมันจะช่วยให้คนจดจำคุณได้ง่ายขึ้น Magic Spoon ทำได้ดีมากในจุดนี้ โดยเฉพาะชาร์ตเปรียบเทียบที่แสดงให้เห็นชัดๆ ว่าซีเรียลของเขาดีกว่ายังไง
อีกจุดที่น่าสังเกตคือ ภาษาที่ใช้นั้นฟังดูเป็นกันเอง เข้าใจง่าย และตรงกับกลุ่มเป้าหมายสุดๆ ไม่มีความจำเป็นเลยที่จะต้องใช้สำนวนแข็งๆ แบบเอกสารต้อนรับของบริษัทใหญ่เลย
2. WP Standard

หน้าเกี่ยวกับเราของ WP Standard ดูคล้ายๆ กับลุคบุ๊กมากกว่าจะเป็นหน้าเนื้อหาทั่วไป เพราะใช้ข้อความน้อยมาก เนื้อเรื่องหลักถ่ายทอดผ่านวิดีโอ ภาพ และคำไม่กี่คำที่ชวนให้นึกถึงความแกร่ง การเดินทาง และการกลับไปหาสิ่งจำเป็นที่สุดในชีวิต

คลิปวิดีโอสั้นๆ ช่วยถ่ายทอดคุณค่าของแบรนด์โดยไม่ต้องพูดเยอะ แค่ให้ภาพเล่าเรื่องแทน มันเป็นการเลี่ยงวิธีแบบเน้นตัวอักษรที่หลายแบรนด์นิยม แต่กลับเวิร์กสำหรับ WP Standard ที่เป็นแบรนด์ที่เลือกจะพูดน้อยและปล่อยให้บรรยากาศ ความรู้สึก และดีไซน์เป็นคนพูดแทน
3. Bossy Cosmetics

หน้าเกี่ยวกับเราของ Bossy Cosmetics ใช้แนวทางที่ดูคลาสสิกมากขึ้น ด้วยการใส่ข้อความไว้เยอะพอสมควร แต่จุดที่น่าสนใจคือการวางภาพของผู้ก่อตั้งไว้แบบเด่นชัดตั้งแต่แรก
เพราะผู้ก่อตั้งคือหัวใจของเรื่องราวเบื้องหลังแบรนด์ การให้เธอเป็นจุดโฟกัสของหน้านี้จึงเหมาะมาก ลองพิจารณาใส่สิ่งอื่นเพิ่มเติมลงไปด้วย เหมือนที่ Bossy ทำ เช่น วิดีโอต้อนรับจาก YouTube ลิงก์ไปยังองค์กรการกุศลที่แบรนด์สนับสนุน หรือใบรับรองต่างๆ ที่ช่วยเสริมความน่าเชื่อถือ
ตอนคุณเขียนหน้าเกี่ยวกับเรา อย่าคิดว่าความเป็นมืออาชีพจะต้องมาพร้อมความน่าเบื่อ โดยเฉพาะถ้าแบรนด์คุณไม่ได้ยึดถือความทางการเป็นหลัก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำให้แบรนด์รู้สึกเข้าถึงได้สำหรับกลุ่มเป้าหมาย และสื่อสารกับเขาในแบบที่เขารู้สึกว่า “ใช่” นั่นแหละคือจุดที่ควรโฟกัส
4. Allbirds
หน้าเกี่ยวกับเราของ Allbirds ดึงดูดสายตาตั้งแต่แรกด้วยวิดีโอพื้นหลังและถ้อยคำกวนๆ ที่ชวนให้หยุดอ่านทันที แค่เปิดมาก็รู้สึกได้เลยว่าแบรนด์นี้มีคาแรกเตอร์ที่น่าจดจำ เลื่อนลงไปอีกหน่อยก็จะเจอกับเรื่องราวของผู้ก่อตั้งที่เล่าในรูปแบบบุรุษที่สาม
ถึงวิธีนี้ก็ใช้ได้เหมือนกัน แต่ต้องระวังไม่ให้ดูเป็นทางการหรือห่างเหินเกินไป Allbirds เองก็บาลานซ์จุดนี้ไว้ได้ดี ด้วยข้อความบนเว็บที่อ่านง่าย สบายๆ และการใส่ภาพของผู้ก่อตั้งเข้าไป ช่วยให้คนอ่านรู้สึกว่าได้รู้จักตัวตนของแบรนด์จริงๆ มากกว่าแค่ตัวหนังสือ

ลองใช้แอนิเมชันช่วยเล่าเรื่องแทนการอธิบายยืดยาว ให้คนดูเห็นภาพได้เลยว่าผลิตภัณฑ์ของคุณประกอบขึ้นมาแบบไหน แล้วเสริมด้วยคำอธิบายสั้นๆ ที่อ่านง่ายว่าอะไรทำให้สินค้าของคุณแตกต่างจากคนอื่น เพื่อเพิ่มบริบทให้คนเข้าใจจุดเด่นได้ทันที
5. Buck Mason

Buck Mason แบรนด์เสื้อผ้าผู้ชายจากแคลิฟอร์เนีย ใช้ภาพเล่าเรื่องได้อย่างชัดเจน แค่เลื่อนผ่านก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายและตัวตนของแบรนด์ ไม่ต้องพึ่งแค่ข้อความยาวๆ ให้เหนื่อยตา นี่คืออีกตัวอย่างที่ดีว่าภาพสามารถบอกเล่าเรื่องราวและสร้างอัตลักษณ์แบรนด์ได้มากแค่ไหน
หนึ่งในจุดที่โดดเด่นที่สุดของหน้าเกี่ยวกับเราของ Buck Mason คือคำเชิญชวนแบบ CTA อย่าง “Come have a drink” (มาดื่มอะไรกันสักหน่อย) หรือ “Stop on by” (แวะมาสิ) ที่ฟังดูเป็นกันเอง สนุก และพูดกับกลุ่มเป้าหมายตรงๆ โดยไม่ต้องพยายามแข็งทื่อ
อย่ามองข้าม CTA ในหน้าเกี่ยวกับเรา เพราะนี่เป็นอีกโอกาสที่คุณจะได้สะท้อนความเป็นแบรนด์ของคุณออกมาให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
6. Chubbies

Chubbies โดดเด่นด้วยสองกลยุทธ์ที่เติมชีวิตชีวาให้กับแบรนด์เสื้อผ้าผู้ชายของตัวเองน่าจดจำสุดๆ
- ข้อความบนเว็บไซต์ที่เฉียบและสนุก
- ภาพถ่ายไลฟ์สไตล์ที่เต็มไปด้วยพลัง โดยใช้คนจริงใส่เสื้อผ้าจริงๆ
ทั้งสองอย่างนี้ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ใช่ได้แบบตรงจุด ซึ่งก็คือผู้ชายที่ชอบความกวน สนุก และให้ความสำคัญกับการพักผ่อนอย่างจริงจัง
เวลาคุณจะเขียนหน้าเกี่ยวกับเราให้เป๊ะ ลองคิดย้อนกลับไปก่อนว่า 3 อย่างที่กลุ่มเป้าหมายของคุณให้ความสำคัญคืออะไร แล้วค่อยดึงคุณค่านั้นมาใส่ในข้อความของคุณ พร้อมเสริมด้วยภาพที่สื่อถึงสิ่งเหล่านั้น เพื่อให้เรื่องราวของคุณชัดเจนและทรงพลังยิ่งขึ้น
7. Milk Bar

ทำไมต้องเล่าเรื่องด้วยตัวหนังสือ ในเมื่อคุณสามารถใช้ภาพและวิดีโอเบื้องหลังสุดน่าดึงดูดมาเล่าเรื่องได้? Milk Bar ร้านเบเกอรี่น่ารักสีสันสดใสทำแบบนั้นเลย เพราะทันทีที่คุณคลิกเข้าไปที่หน้าเกี่ยวกับเรา คุณก็จะเจอกับภาพสวยๆ และคลิปเบื้องหลังการทำขนมเต็มหน้า ทำให้คุณรู้สึกเหมือนเข้าไปอยู่ในครัวด้วยจริงๆ
แต่นั่นไม่ได้แปลว่า Milk Bar ลืมองค์ประกอบสำคัญของหน้าเกี่ยวกับเราที่ดีนะ ลองสังเกตดูดีๆ จะเห็นว่าเขาก็ยังใส่ข้อมูลพวกนี้ไว้ครบ
- รายชื่อองค์กรการกุศลที่ร่วมงานด้วย
- สื่อที่เคยนำเสนอแบรนด์ (อย่าง The New York Times) เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ
- เรื่องราวสั้นๆ เกี่ยวกับจุดเริ่มต้นของแบรนด์
- รูปถ่ายและข้อมูลของทีมงาน
8. Wild One

บางครั้งความเรียบง่ายก็ได้ผลดีที่สุด เช่นเดียวกับ Wild One แบรนด์ที่มุ่งมั่นในการทำผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง ซึ่งนำเสนอแนวทางที่ชัดเจนและตรงไปตรงมาถึงสิ่งที่แบรนด์ทำ ใครคือกลุ่มเป้าหมาย และช่วยแก้ปัญหาอะไร

Wild One ทำได้ดีในการแทรกแนวคิดเรื่อง “ความเรียบง่าย” ลงในทั้งข้อความและภาพแบรนด์ การออกแบบที่สะอาดตา สีพาสเทลอ่อนๆ และข้อความสั้นๆ ช่วยเน้นย้ำแนวคิดนี้ได้อย่างชัดเจน เช่นเดียวกับ Wild One การใช้แนวทางเรียบง่ายสำหรับหน้าเกี่ยวกับเราอาจจะเหมาะที่สุดกับแบรนด์ของคุณก็ได้
9. BOOM! by Cindy Joseph

แนวทางที่ตรงไปตรงมาของ BOOM! สำหรับหน้าเกี่ยวกับเราจัดว่าทำงานได้ดีมากเลยทีเดียว เพราะมันถูกออกแบบมาเพื่อการแปลงลูกค้า มันบอกได้ชัดเจนว่าใครคือกลุ่มเป้าหมาย ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์มีคุณค่าอะไร และแบรนด์เริ่มต้นขึ้นได้อย่างไรโดยการแก้ปัญหาสำหรับผู้หญิงสูงวัย
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากแนวทางของ BOOM! คือการตั้งปุ่ม CTA ว่า See our products หรือ ดูผลิตภัณฑ์ของเรา ไว้ที่ด้านบนของหน้า เราสามารถคาดเดาได้ว่าแนวทางนี้ทำให้ลูกค้าคลิกไปยังหน้าผลิตภัณฑ์ได้อย่างดี
เช่นเดียวกับ BOOM! คุณอาจลองทดสอบปุ่ม CTA ของคุณดูบ้าง ไม่มีข้อบังคับที่บอกว่า CTA ต้องอยู่ที่ด้านล่างของหน้าเกี่ยวกับเรา ลองพิจารณาวางมันไว้ใกล้ๆ กับส่วนของการแนะนำเพื่อให้โดดเด่นและเห็นง่าย
10. Lunya

หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการใช้หน้าเกี่ยวกับเราก็คือการแสดงให้เห็นถึงคุณค่าที่แบรนด์ของคุณมอบให้ Lunya ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ขายชุดลำลอง เลือกที่จะเน้นงานฝีมือเป็นหัวใจหลักของความแตกต่างที่แบรนด์นำเสนอ
Lunya ใช้วิดีโอเพื่อแสดงให้เห็นถึงความพิถีพิถันในรายละเอียด การตัดเย็บ และคุณภาพของสินค้า แนวทางนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ “เล่าให้น้อย แสดงให้มาก” ที่ช่วยเพิ่มพลังให้กับหน้าเกี่ยวกับเราได้อย่างดีเยี่ยม

พอผู้ใช้งานเลื่อนมาจนถึงท้ายหน้าเกี่ยวกับเรา ลองคิดดูว่า “พื้นที่” ตรงนั้นมีค่ามากแค่ไหน แทนที่จะปล่อยให้จบแบบปลายปิดด้วยเรื่องราวของแบรนด์หรือแค่ใส่ลิสต์ค่านิยมของแบรนด์ ลองดึงความสนใจของคนอ่านต่อด้วยการใส่ลิงก์ไปยังสินค้าขายดีของคุณ ลองนำวิธีที่ Lunya ใช้ไปเป็นแรงบันดาลใจให้คุณดูสิ
11. Wild Fork

หน้าเกี่ยวกับเราของ Wild Fork ชวนให้รู้สึกถึงกลิ่น รส และสัมผัส ซึ่งก็เหมาะมาก เพราะแบรนด์นี้ขายเนื้อสัตว์คุณภาพดีจากฟาร์มที่เลี้ยงอย่างรับผิดชอบ
นอกเหนือจากเนื้อที่ดูน่ากินแล้ว Wild Fork ยังขายความสบายใจให้กับคนที่ใส่ใจสุขภาพ โดยนำเสนอว่าแบรนด์ทำได้อย่างไรผ่านหน้าเกี่ยวกับเรา ด้วยวิธีการดังนี้
- ใส่อินโฟกราฟิกเล่ากระบวนการจากฟาร์มถึงจาน
- ใส่วิดีโอพร้อมคำบรรยายอธิบายขั้นตอนต่างๆ
- โชว์ภาพเนื้อชิ้นสวยๆ ที่เลือกมาอย่างดี
- ระบุประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ไว้อย่างชัดเจน เช่น ความสะดวก ความหลากหลาย และความสด
พอคุณชัดเจนกับสิ่งที่แบรนด์นำเสนอแล้ว การใช้ภาพหลายรูปแบบมาผสมกันก็สามารถช่วยให้สารที่คุณอยากสื่อชัดเจนขึ้นอีกเยอะ ลองทำแบบ Wild Fork ดู อย่ากลัวที่จะนำภาพต่างๆ มามิกซ์แอนด์แมตช์เพื่อเล่าเรื่อง และทำให้หน้าเกี่ยวกับเราน่าสนใจและแตกต่างในแบบของคุณเอง
12. 4ocean

หน้าเกี่ยวกับเราของ 4ocean วางจุดยืนของแบรนด์ไว้กลางหน้าอย่างชัดเจน ซึ่งวิธีนี้เหมาะมากสำหรับแบรนด์ที่ขับเคลื่อนด้วยพันธกิจ และมีเป้าหมายชัดเจนที่กลุ่มเป้าหมายพร้อมจะสนับสนุน เมื่อเข้ามายังหน้าเกี่ยวกับเรา ผู้เข้าชมจะเจอกับวิดีโอแบบเต็มหน้าจอที่เล่าเรื่องราวของผู้ก่อตั้ง และสะท้อนเป้าหมายของแบรนด์ผ่านคำพูดของพวกเขาเอง

แผนรับมือวิกฤตขยะพลาสติกของ 4ocean เป็นหัวใจสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการสร้างเครื่องประดับและเสื้อผ้าของแบรนด์นี้ หน้าเกี่ยวกับเราถูกแบ่งออกเป็นหลายส่วน ทั้งที่เล่าการดำเนินงานของแบรนด์ เรื่องของ Osborne Reef และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ลองดูแนวทางแบบ 4ocean ก็ได้ แบ่งเนื้อหาในหน้าเกี่ยวกับเราออกเป็นหัวข้อย่อยหรือเพจย่อย แล้วแสดงคุณค่าที่แบรนด์ของคุณนำเสนอให้ชัด เพื่อสร้างความแตกต่างให้ได้มากที่สุด
15. YETI

YETI นำการเล่าเรื่องไปสู่อีกระดับในหน้าเกี่ยวกับของมัน.
การออกแบบช่วยบอกเรื่องราวของผู้ก่อตั้ง เมื่อมองแวบแรก คุณจะได้รับความประทับใจเกี่ยวกับค่านิยมของบริษัทผ่านภาพถ่าย วิดีโอที่วนซ้ำ และ คำแถลงภารกิจ ที่ชัดเจน เลื่อนลงไปที่หน้า: คุณจะเห็นผู้คนที่ดำเนินธุรกิจและภาพของพวกเขาขณะตกปลา.
ผู้เข้าชสามารถคลิกผ่านเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับการสนับสนุนของแบรนด์ มันยังแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับผู้ที่สร้างแรงบันดาลใจจากฉากกลางแจ้ง เช่น เรื่องราวเบื้องหลัง Mark Engler ไกด์ตกปลาที่มีชื่อเสียงในพื้นที่โคโลราโด/นิวเม็กซิโก.

YETI ยกระดับการเล่าเรื่องผ่านหน้าเกี่ยวกับเราได้อย่างน่าสนใจ
ดีไซน์ของหน้าเพจช่วยถ่ายทอดเรื่องราวของผู้ก่อตั้ง แค่แรกเห็นก็สัมผัสได้ถึงคุณค่าของแบรนด์ผ่านภาพถ่าย วิดีโอที่เล่นวน และข้อความพันธกิจที่ชัดเจน พอเลื่อนลงไปเรื่อยๆ ก็จะเห็นคนที่อยู่เบื้องหลังแบรนด์ พร้อมภาพพวกเขาขณะตกปลา
ผู้เข้าชมยังสามารถคลิกอ่านเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสปอนเซอร์ที่ YETI สนับสนุนได้ด้วย ไม่ใช่แค่แบรนด์เท่านั้นที่ถูกเล่า แต่ยังรวมถึงเรื่องราวของคนจริงๆ ในวงการกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น Mark Engler ไกด์ตกปลาระดับตำนานจากแถบโคโลราโดและนิวเม็กซิโก ที่ถูกหยิบมาเล่าอย่างน่าติดตาม
YETI เล่าเรื่องของตัวเองอย่างชัดเจน พร้อมทั้งสรุปประเด็นเด่นที่ช่วยเพิ่มแรงบันดาลใจให้คนอ่าน และยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้ ข้อความสรุปเหล่านี้ยังช่วยแสดงให้เห็นจุดแข็งของแบรนด์ YETI และสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าใหม่ได้ดีด้วย
14. 40 Colori

40 Colori เป็นตัวอย่างของหน้าเกี่ยวกับเราที่ดีสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก โดยนำเสนอภาพรวมของบริษัทอย่างเรียบง่าย พร้อมส่วนที่อธิบายว่า “เราทำงานกันอย่างไร” เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นภาพการดำเนินงานเบื้องหลัง แบรนด์สื่อสารกับผู้อ่านโดยตรง ถ่ายทอดเรื่องราวได้อย่างต่อเนื่องและน่าเชื่อถือ ช่วยสร้างความไว้วางใจและความโปร่งใส
ในส่วนสรุปของหน้านี้จะอธิบายว่าแบรนด์คือใคร มีค่านิยมแบบไหน และแตกต่างจากแบรนด์เสื้อผ้าบุรุษสัญชาติอิตาลีอื่นๆ อย่างไร ข้อความบนหน้าเพจชัดเจน ตรงไปตรงมา และใช้น้ำเสียงของแบรนด์ที่ทำให้ 40 Colori ดูเป็นมิตรและน่าเชื่อถือ
15. MVMT

หน้าเกี่ยวกับเราของ MVMT ถูกออกแบบให้เป็นแบบแยกส่วน นำทางผู้อ่านไปทีละขั้นตอนผ่านเรื่องราวของแบรนด์
หน้าเกี่ยวกับเรานี้เริ่มต้นด้วยการเล่าเรื่องของผู้ร่วมก่อตั้งทั้งสองคน ซึ่งทั้งคู่ต่างก็ลาออกจากมหาวิทยาลัยกลางคัน การเปิดด้วยภาพของผู้ก่อตั้งช่วยเพิ่มความรู้สึกเป็นกันเอง ก่อนจะเข้าสู่คำมั่นสัญญาเรื่องสินค้า และปิดท้ายด้วยปรัชญาของบริษัท
ถ้าคุณยังไม่แน่ใจว่าจะจัดโครงสร้างหน้าเกี่ยวกับเรายังไงดี อาจลองใช้แนวทางของ MVMT ก็ได้ โดยแบ่งเนื้อหาออกเป็นสี่ส่วนง่ายๆ ดังนี้
- เรื่องราวของเรา
- สินค้าของเรา
- พันธกิจของเรา
- โซเชียลของเรา
รูปแบบนี้จะช่วยให้คุณเล่าเรื่องได้อย่างเรียบง่าย มีประสิทธิภาพ และทำให้ผู้อ่านเข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่า แบรนด์คุณคือใคร และทำอะไรอยู่
16. Marie Forleo

Marie Forleo สร้างความเชื่อมโยงกับผู้อ่านโดยการออกแบบหน้าเกี่ยวกับเราของเธอให้เหมือนกับจดหมายยาวๆ ซึ่งเล่าเรื่องราวของเธอในโทนที่เป็นกันเองและเป็นส่วนตัว ก่อนที่จะมุ่งเน้นไปที่ผู้อ่านด้วยส่วนที่ตั้งชื่อได้อย่างเหมาะสมว่า “สิ่งที่ทำให้ฉันมาเจอะคุณ”
Marie ยังสร้างความน่าเชื่อถือด้วยการกล่าวถึงชื่อที่มีชื่อเสียง เช่น การแสดงภาพถ่ายของเธอกับ Richard Branson และ Oprah โดยภาพเหล่านี้จะมาพร้อมกับลิงก์ไปยังสื่อที่มีการพูดถึงผลงานของเธอ

สำหรับผู้ประกอบการที่ผูกแบรนด์ส่วนตัวเข้ากับธุรกิจ หน้าเกี่ยวกับเราในสไตล์นี้ใช้ได้ผลดี คุณสามารถเล่าธุรกิจของคุณเหมือนเป็นหนึ่งบทสำคัญในเรื่องราวชีวิต เริ่มต้นจากจุดเริ่มต้น แล้วจบลงตรงที่ผู้อ่านกลายเป็นหนึ่งในตัวละครของเรื่องนี้ เป็นคนที่คุณอยากพาเข้าสู่บทต่อไปของแบรนด์คุณ
17. Cotopaxi

แก่นของแบรนด์มักซ่อนอยู่ในความรู้สึกและความหมายที่ชื่อของแบรนด์กระตุ้นให้คนรู้สึกได้ เพราะฉะนั้นอีกหนึ่งจุดเริ่มต้นที่ดีในการเล่าเรื่องราวของคุณก็คือ “เหตุผล” เบื้องหลังชื่อธุรกิจ
Cotopaxi ใช้วิธีนี้ โดยอธิบายความหมายส่วนตัวของชื่อแบรนด์ที่มีต่อผู้ก่อตั้ง นี่คือจุดเริ่มต้นที่พาพวกเขาไปสู่เรื่องราวอื่นๆ ที่ตามมา ทั้งการลงมือสร้างธุรกิจ และการขับเคลื่อนพันธกิจที่ยึดถือมาตลอด
18. Mailchimp

หน้าเกี่ยวกับเราของ Mailchimp แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ที่มีต่อธุรกิจขนาดเล็กและชุมชน เปิดด้วยเรื่องราวของผู้ก่อตั้ง ซึ่งบอกเล่าประสบการณ์กว่า 20 ปีในด้านเว็บดีไซน์และอีเมล เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจ
หน้านี้ยังสื่อถึงคุณค่าของแบรนด์โดยเล่าถึงวัฒนธรรมองค์กรของ Mailchimp ว่าให้ความสำคัญกับการเรียนรู้และการให้ความรู้กับพนักงานเกี่ยวกับธุรกิจขนาดเล็ก เพื่อให้ทุกคนที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมสอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กรอย่างแท้จริง
อีกจุดหนึ่งที่โดดเด่นคือส่วนที่พูดถึงบทบาทของแบรนด์ในฐานะพลเมืององค์กร (corporate citizenship) โดยเฉพาะโครงการ Give Where You Live ที่ช่วยเหลือองค์กรไม่แสวงผลกำไรในเมืองต่างๆ
โดยรวมแล้ว หน้าเกี่ยวกับเราของ Mailchimp ให้ความรู้สึกจริงใจ ซื่อตรง และสะท้อนว่าแบรนด์ยืนหยัดเคียงข้างธุรกิจขนาดเล็กทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์อย่างไรบ้าง
วิธีเขียนหน้าเกี่ยวกับเราใน 5 ขั้นตอน
1. วางบริบท
หน้าเกี่ยวกับเราที่ดีจะเล่าเรื่องแบรนด์ได้อย่างมีพลัง เริ่มด้วยการแนะนำตัวละครหรือบริบท และบอกให้รู้ว่า “ก่อนหน้านี้” โลกของคุณ ลูกค้าของคุณ หรืออุตสาหกรรมของคุณเป็นอย่างไร
2. แนะนำปัญหา
เล่าว่ามีปัญหาอะไรที่ทำให้คุณ (ในฐานะตัวละครหลัก) ต้องลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่าง ปัญหานั้นกระทบกับใคร กระทบยังไง และทำไมมันถึงสำคัญ
3. ยืนหยัดต่อความท้าทาย
บอกว่าคุณเริ่มต้นหาทางออกอย่างไร หรือพูดอีกแบบคือ จุดเริ่มต้นของธุรกิจคุณเป็นยังไง ระหว่างทางเจออุปสรรคอะไรมาบ้าง
4. มาถึงทางออก
เล่าให้ชัดว่าทุกวันนี้ธุรกิจของคุณทำอะไร เพื่อเป้าหมายอะไร และคุณเดินทางมาไกลแค่ไหนแล้ว เพราะหัวใจของเรื่องเล่าคือ “การเปลี่ยนแปลง” จากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง ซึ่งหน้าเกี่ยวกับเราก็ควรสะท้อนการเปลี่ยนแปลงนั้นให้คนอ่านรู้สึกได้
5. มองไปข้างหน้า
พาผู้อ่านเห็นภาพว่าอนาคตของธุรกิจคุณจะเป็นยังไง หรือจะบอกเป็นพันธกิจและเป้าหมายของแบรนด์ก็ได้
คุณอาจใส่องค์ประกอบอื่นๆ ลงในหน้าเกี่ยวกับเราด้วย เพื่อช่วยเล่าเรื่องให้สมบูรณ์ขึ้น ทำให้แบรนด์คุณมีเอกลักษณ์ และบอกให้ชัดว่าคุณสร้างธุรกิจนี้ขึ้นมาเพื่ออะไร
โมเดลธุรกิจของคุณ
สำหรับบางธุรกิจ โมเดลธุรกิจของแบรนด์ก็คือจุดขายที่ทำให้แตกต่างจากคู่แข่ง และควรนำมาใส่ไว้ในหน้าเกี่ยวกับเรา
ตัวอย่างที่คุณอาจเล่าในหน้านี้ได้
- คุณตัดคนกลางออกจากระบบอย่างไร แล้วนำความคุ้มค่ากลับไปให้ลูกค้าได้แบบไหน
- คุณหาแหล่งวัตถุดิบหรือผลิตสินค้าจากที่ไหน (เช่น ผลิตในประเทศใดประเทศหนึ่ง หรือสร้างงานให้ชุมชนเฉพาะกลุ่ม)
- รายได้บางส่วนของคุณถูกนำไปสนับสนุนองค์กรการกุศลอย่างไร
ถ้าคุณอยากสร้างความน่าเชื่อถือผ่านความโปร่งใส หน้าเกี่ยวกับเรานี่แหละคือจุดเริ่มต้นที่ดี ลองใช้พื้นที่นี้อธิบายภาพรวมของซัพพลายเชน วิธีที่ธุรกิจของคุณทำงาน หรือประวัติย่อของบริษัท แล้วโยงทุกอย่างกลับไปสู่พันธกิจของแบรนด์
หนึ่งในวิธีที่สื่อสารเรื่องนี้ได้ง่ายและชัดเจนคือการใช้ภาพประกอบหรืออินโฟกราฟิก ที่อธิบายโมเดลธุรกิจของคุณแบบเข้าใจได้ในพริบตา
การถูกพูดถึงในสื่อ คำชม และรางวัล
รีวิวจากลูกค้า การถูกพูดถึงในสื่อ หรือคอนเทนต์จากลูกค้าเอง (UGC) ก็สามารถนำมาใช้ในหน้าเกี่ยวกับเรา เพื่อแสดงให้เห็นว่าแบรนด์ของคุณมีผลต่อผู้คนหรืออุตสาหกรรมอย่างไร
คุณสามารถใส่การพิสูจน์ทางสังคมลงในหน้าเกี่ยวกับเราได้หลายวิธี เช่น
- ฝังแกลเลอรี Instagram ที่รวมภาพจากลูกค้าจริง
- ใส่โลโก้ของสื่อที่เคยพูดถึงคุณ
- ดึงคำพูดจากรีวิวของลูกค้ามาไฮไลต์
การได้รางวัล การพูดถึงในสื่อ และความสำเร็จอื่นๆ คือหมุดหมายสำคัญที่ช่วยเติมเรื่องราวของแบรนด์คุณให้ชัดขึ้น และยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถืออีกด้วย มาดูกันว่าแบรนด์ซีเรียล OffLimits เลือกใช้วิธีไหนในการใส่สิ่งเหล่านี้ลงในหน้าเกี่ยวกับเราของตัวเองบ้าง

ตัวเลขที่เป็นรูปธรรม
ตัวเลขช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับคุณ โดยเฉพาะหากคุณกำลังอธิบายถึงปัญหาที่คุณพยายามจะแก้ไข หรือความก้าวหน้าที่คุณทำในฐานะธุรกิจ (เช่น จำนวนสินค้าที่ขายได้หรือจำนวนปีที่คุณดำเนินธุรกิจ)
พิจารณาสถิติต่างๆ ที่คุณสามารถใช้ในหน้าเกี่ยวกับเราเป็นวิธีในการเน้นภารกิจของบริษัทของคุณ หรือเพื่อแสดงผลกระทบที่คุณมีในฐานะธุรกิจ
ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำปัญหาในอุตสาหกรรมหรือการเน้นความสำเร็จของบริษัท การใส่ตัวเลขที่สะดุดตาลงไปในเรื่องราวของคุณสามารถช่วยสื่อสารข้อความของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การแนะนำให้รู้จักทีมของคุณ
การนำเสนอคนที่อยู่เบื้องหลังแบรนด์ของคุณช่วยให้แบรนด์ดูเป็นมนุษย์มากขึ้น สื่อสารวัฒนธรรมของบริษัท และให้ความสำคัญกับคนที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจของคุณ
แม้ว่าคุณจะแสดงเพียงแค่ผู้ก่อตั้งเท่านั้น หน้าเกี่ยวกับเราของคุณก็ยังเป็นโอกาสในการสร้างแบรนด์ส่วนตัว เป็นพื้นที่ที่จะสร้างความไว้วางใจกับผู้อ่านโดยการแบ่งปันว่าเรื่องราวและประสบการณ์ของคุณทำให้คุณและบริษัทของคุณเหมาะสมกับการให้บริการตลาดของคุณอย่างไร
วิดีโอหรือแกลเลอรีภาพถ่าย
ถ้าเป็นไปได้ คุณควรผสมผสานสื่อหลายรูปแบบในหน้าเกี่ยวกับเราของคุณเพื่อเพิ่มความหลากหลายในการออกแบบหน้าเว็บ
อย่างน้อยที่สุด คุณสามารถใส่ภาพถ่ายเบื้องหลังที่มีคุณภาพสูงที่ให้ผู้เยี่ยมชมเห็นภาพรวมของธุรกิจของคุณ หากคุณได้ลงทุนในทรัพย์สินดิจิทัลเช่นวิดีโอหรือกรณีศึกษา หน้าเกี่ยวกับเราของคุณก็เป็นสถานที่ที่ดีในการเก็บสิ่งเหล่านี้ด้วยเช่นกัน
ลิงก์โซเชียลมีเดียและ CTA
หน้าเกี่ยวกับเราของคุณยังสามารถใช้เป็นช่องทางในการเชื่อมโยงผู้เยี่ยมชมไปยังหน้าเว็บหรือแพลตฟอร์มออนไลน์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นโพสต์บล็อกหรือโปรไฟล์โซเชียล หากคุณเป็นแบรนด์อีคอมเมิร์ซ คุณอาจต้องการชี้ไปที่เนื้อหาวิชวลที่ดีที่สุดของคุณบน TikTok หรือ Instagram หากคุณเป็นฟรีแลนซ์ ลิงก์ไปยังโปรไฟล์ LinkedIn ของคุณก็สามารถช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าใหม่ได้
อย่าลืมใส่ลิงก์ CTA ที่เกี่ยวข้องลงในเนื้อหาของคุณ และพิจารณาถึงวิธีที่คุณสามารถช่วยให้ผู้เยี่ยมชมเดินทางต่อไปได้ โดยการกระตุ้นให้พวกเขาทำสิ่งเหล่านี้
- ติดตามบัญชีโซเชียลของคุณ
- สมัครสมาชิกในรายชื่ออีเมลของคุณ
- ดูสินค้าของคุณ
- สมัครงานที่บริษัทของคุณ
- อ่านบล็อกของคุณ
เทมเพลตหน้าเกี่ยวกับเรา
จำไว้ว่าการเขียนเนื้อหาของคุณในมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (เช่น ฉัน เรา) จะช่วยสร้างความเชื่อมโยงที่เป็นส่วนตัวกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ หน้าเกี่ยวกับเราคือเรื่องราวของคุณ ดังนั้นอย่ากลัวที่จะใช้วิธีนี้
แค่ทำตามพอยต์สำคัญเหล่านี้ แล้วคุณจะได้โครงสร้างของเรื่องราว (ไม่จำเป็นต้องเป็นข้อความที่ใช้จริง)
ที่คุณสามารถนำไปใช้ในเนื้อหาของหน้าเกี่ยวกับเราได้:
[ผู้ก่อตั้ง] เริ่มต้น [บริษัท] เพราะ [อธิบายปัญหาในอุตสาหกรรมของคุณ]
นั่นคือเหตุผลที่ [อธิบายการเดินทางสู่การหาทางออก]
ในระหว่างทาง [แชร์ความสำเร็จและก้าวสำคัญ]
เราต้องการที่จะ [ระบุพันธกิจของคุณในอนาคต]
เทมเพลตหน้าเกี่ยวกับเราที่น่าสนใจ ที่คุณสามารถดูเพิ่มเติมได้
แต่เรื่องราวแค่เริ่มต้นเท่านั้น หน้าเกี่ยวกับเราที่ดีไม่เพียงแค่บอกเล่าเรื่องราวของบริษัท แต่ยังต้องแสดงออกมาอย่างชัดเจนด้วย
หลายๆ แพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซจะมีเทมเพลตหน้าเกี่ยวกับเรามาให้เลย เช่น ธีม Parallax ของ Shopify ที่มีเทมเพลตให้คุณแค่คัดลอกและวางเรื่องราวของคุณลงไป
ถ้าคุณรู้สึกติดขัดในการเขียนหน้าเกี่ยวกับเรา อาจจะคิดอยากใช้เครื่องมือสร้างหน้าเกี่ยวกับเราฟรีหรือจ่ายเงิน แต่ปัญหาคือ ไม่มีเครื่องมือใดที่สามารถเขียนเรื่องราวของบริษัทคุณได้ หน้าเกี่ยวกับเราควรเป็นเอกลักษณ์ของธุรกิจคุณและต้องเขียนด้วยความใส่ใจ
อีกทางเลือกคือการใช้เทมเพลตหน้าเกี่ยวกับเราด้านบน หรือถ้าคุณไม่มีเวลา หรือไม่สามารถหาคำพูดที่ตรงใจได้ ลองจ้างก๊อปปี้ไรเตอร์ดู พวกเขาจะช่วยสัมภาษณ์คุณและทีมงาน แล้วเขียนหน้าเกี่ยวกับเราที่ตรงกับแบรนด์ และสามารถเชื่อมต่อกับลูกค้าของคุณได้อย่างดี
สร้างความไว้วางใจด้วย “หน้าเกี่ยวกับเรา”
เมื่อคุณเริ่มต้นธุรกิจใหม่ๆ อาจรู้สึกว่าไม่มีอะไรให้พูดมากนักบนหน้าเกี่ยวกับเรา
แต่ถ้าคุณมีมุมมองที่ชัดเจนและรู้ว่าทำไมคุณถึงทำในสิ่งที่ทำเพื่อบริการลูกค้าของคุณ นั่นก็เพียงพอแล้วในการเริ่มต้น คุณสามารถเพิ่มความสำเร็จที่คุณได้ผ่านมาในระหว่างการเติบโต เพื่อปรับปรุงหน้าเกี่ยวกับเราของคุณต่อไปตามเวลา
สำหรับผู้ที่มีเรื่องราวแล้ว คุณสามารถดูจากข้อมูลการเข้าชมเว็บไซต์เพื่อดูว่าผู้เยี่ยมชมใหม่ๆ เข้าเยี่ยมชมหน้าเกี่ยวกับเราบ่อยแค่ไหน
บางทีถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องทบทวนและเริ่มมองหน้าเกี่ยวกับเราของคุณให้เป็นสินทรัพย์ออนไลน์ ที่มีค่าที่มันควรจะเป็น
ภาพประกอบโดย Alice Mollon
คำถามที่พบบ่อยของ “หน้าเกี่ยวกับเรา (about us)”
หน้าเกี่ยวกับเรา คืออะไร
หน้าเกี่ยวกับเราเป็นส่วนที่ช่วยแนะนำตัวคุณให้ลูกค้ารู้จัก แบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับตัวคุณ เหตุผลที่คุณเริ่มต้นแบรนด์ วิสัยทัศน์และพันธกิจของคุณ รวมถึงแผนการเติบโตของคุณ ให้คิดว่าหน้าเกี่ยวกับเราเหมือนกับประวัติย่อของร้านค้าของคุณ และควรอัปเดตหน้าเกี่ยวกับเราอยู่เสมอ ยิ่งคุณแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเองมากเท่าไร ลูกค้าก็จะรู้สึกใกล้ชิดกับแบรนด์ของคุณมากขึ้นเท่านั้น
จะเขียนหน้าเกี่ยวกับเรา (about us) ได้อย่างไร
ในการเขียนหน้าเกี่ยวกับเรา เริ่มต้นด้วยการเล่าเรื่องราวของบริษัท
- วางบริบทด้วยการแนะนำตัวละครและสถานการณ์ปัจจุบัน
- แนะนำปัญหาที่ทำให้คุณต้องลงมือทำ
- อธิบายวิธีที่คุณหาทางแก้ไขและอุปสรรคที่คุณเผชิญ
- แบ่งปันความสำเร็จที่ธุรกิจของคุณได้ทำ
- อธิบายอนาคตของบริษัทหรือระบุพันธกิจและเป้าหมาย
ทำไมเว็บไซต์ถึงมีหน้าเกี่ยวกับเรา
แม้ว่าคุณจะไม่จำเป็นต้องมีหน้าเกี่ยวกับเรา แต่การมีมันถือเป็นความคิดที่ดี เนื้อหาบนหน้าเกี่ยวกับเราเป็นวิธีที่ลูกค้าจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับคุณและสร้างความไว้วางใจในแบรนด์ของคุณ ถ้าลูกค้ารู้สึกเชื่อมโยงกับคุณและแบรนด์ของคุณ พวกเขาก็จะพร้อมที่จะซื้อสินค้าของคุณมากขึ้น
จะเพิ่มหน้า เกี่ยวกับเรา บน Shopify ได้อย่างไร
เข้าสู่ระบบแดชบอร์ดของ Shopify แล้วคลิกที่ “Online store” จากเมนูทางซ้าย คลิกที่ “Add page” สร้างเนื้อหาของคุณที่นั่น และตั้งชื่อหน้าว่า “About” บันทึกหน้านั้นแล้วเพิ่มหน้านั้นลงในเมนูของคุณ